COM 2501 การวิเคราะห์และออกแบบเชิงวัตถุ | ||
---|---|---|
ถาม-ตอบ เนื้อหาอาทิตย์ที่ 5 (section 1, 2) | อ่าน 479 | ตอบ 9 | |
เขียนเมื่อ วันพฤหัสบดี ที่ 23 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 เวลา 09:23:25 |
ความเห็นที่ 9 | |
---|---|
จาก : | 58143209 |
วันที่ : | วันศุกร์ ที่ 28 เดือน เมษายน พ.ศ.2560 เวลา 15:02:23 |
Include คือ ความสัมพันธ์ที่ Use Case หนึ่งจำเป็นต้องมีอีก Use Case อีกตัวเพื่อการดำรงอยู่ Extend คือ ความสัมพันธ์ที่ Use Case หนึ่งจะมีหรือไม่มีอีก Use Case หนึ่งได้ก็ แตกต่างกันที่ Include คือสิ่งที่จำเป็นต้องมีUse Case อีกตัวเเสมอ แต่ Extend คือสิ่งที่จะมีUse Case หนึ่งก็ได้หรือไม่มีก็ได้ |
|
ความเห็นที่ 8 | |
จาก : | 58143235 |
วันที่ : | วันพฤหัสบดี ที่ 27 เดือน เมษายน พ.ศ.2560 เวลา 16:41:28 |
เฉลยคำถามข้อที่ 2 - Include คือ ความสัมพันธ์ที่ Use Case หนึ่งจำเป็นต้องมีอีก Use Case หนึ่งเพื่อการดำรงอยู่ได้ต่อไป - Extend คือ ความสัมพันธ์ที่ Use Case หนึ่งจะมีหรือไม่มีอีก Use Case หนึ่งก็ได้ - แตกต่างกันโดยที่ Include คือสิ่งที่จำเป็นต้องมีเสมอ แต่ Extend คือสิ่งที่จะมีหรือไม่มีก็ได้ |
|
ความเห็นที่ 7 | |
จาก : | 58143339 |
วันที่ : | วันจันทร์ ที่ 24 เดือน เมษายน พ.ศ.2560 เวลา 12:10:08 |
ตอบคำถามข้อ 2 Include Relationship ความสัมพันธ์อีกรูปแบบหนึ่งของ Use Case Diagram ก็คือ ความสัมพันธ์แบบเรียกใช้เกิดขึ้นในกรณีที่ Use Case หนึ่งไปเรียกหรือดึงกิจกรรมของอีก Use Case หนึ่งมาใช้เพื่อให้กิจกรรมนั้นเกิดขึ้นจริงใน Use Case ของตนเอง Extend Relationship เป็นความสัมพันธ์แบบขยายหรือเพิ่ม เกิดขึ้นในกรณีที่บาง Use Case ดำเนินกิจกรรมของตนเองไปตามปกติ แต่อาจจะมีเงื่อนไขหรือสิ่งกระตุ้นบางอย่างที่ส่งผลให้กิจกรรมตามปกติของ Use Case นั้นถูกรบกวนจนเบี่ยงเบนไป ซึ่งเราสามารถแสดงเงื่อนไขหรือสิ่งกระตุ้นเหล่านั้นได้ในรูปของ “Use Case”
ความแตกต่างระหว่างความสัมพันธ์แบบ Extend กับ Include คือ Extend จะเป็น Use Case ที่ถูกเรียกใช้เฉพาะบางกรณีเท่านั้น แต่ Include จะถูกเรียกทุกครั้งที่ Base Use Case มีการดำเนินกิจกรรม |
|
ความเห็นที่ 6 | |
จาก : | 58143327 |
วันที่ : | วันพุธ ที่ 1 เดือน มีนาคม พ.ศ.2560 เวลา 06:19:42 |
ตอบข้อ 3 actor เช่น นักเรียน พนง.การเงิน |
|
ความเห็นที่ 5 | |
จาก : | 58143302 |
วันที่ : | วันพุธ ที่ 1 เดือน มีนาคม พ.ศ.2560 เวลา 06:16:13 |
คำถามข้อที่ 3 สิ่งที่อยู่นอกขอบเขตของระบบแต่มีความสัมพันธ์ต่อระบบ เรียกว่าอะไร และยกตัวอย่างประกอบ |
|
ความเห็นที่ 4 | |
จาก : | 58143235 |
วันที่ : | วันอังคาร ที่ 28 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 เวลา 07:40:53 |
คำถามข้อที่ 2 Include กับ Extends คืออะไรและแตกต่างกันอย่างไร |
|
ความเห็นที่ 3 | |
จาก : | 58143223 |
วันที่ : | วันศุกร์ ที่ 24 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 เวลา 14:13:41 |
ตอบคำถาม การสร้าง System Context Model มี5ขั้นตอน 1.หาActor ทั้งหมดที่มีอยู่ใบขอบเขตของระบบ 2.ค้นหาและจำลองความสัมพันธ์เชิงGenerallzation /specializationของ actor ถ้ามี 3.หา use case ที่สัมพันธ์กับ actor 4.ต้องไม่มี actor ตังใดไม่สามารถสัมพันธ์กับ use actorที่เป็น subciass 5.ต้องไม่มี use case ตัวใดที่ไม่มีความสัมพันธ์กับ actorตัวใด |
|
ความเห็นที่ 2 | |
จาก : | 58143229 |
วันที่ : | วันศุกร์ ที่ 24 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 เวลา 14:07:04 |
ตอบคำถามข้อ1 มี 5 ขั้นตอน 1 หา Actcr ทั้งหมดที่ควรมี อยู่ภายนอกขอบเขตระบบ 2 ค้นหาหรือจำลองความสัมพันธ์ของ actor 3 หา use case ของระบบที่มีความสัมพันธ์กับ Actor 4 ต้องไม่มี Actor ตัวใดที่ไม่มีความสัมพันธ์กับ Use Case ยกเว้นตัวของ actor ที่เป็น subclass 5 ค้องไม่มี use case ตัวใดที่ไม่สัมพันธ์กับ Actor |
|
ความเห็นที่ 1 | |
จาก : | 58143222 นายพงษ์อนันต์ กันทา |
วันที่ : | วันศุกร์ ที่ 24 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 เวลา 13:38:37 |
#คำถาม ถามว่า การสร้าง System Context Model เป็นการวิเคราะห์หาอะไร มีกี่ขั้นตอน พร้อมอธิบายในแต่ละขั้นตอน |